เห็ดเป็นยา ได้จริงหรือ ??
เห็ดเป็นยา
หรือเห็ดที่ใช้ประโยชน์ทางยาเห็ดถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางยาเพราะมีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะ มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านไวรัส ต้านเชื้อรา ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็งและเนื้องอก ทำลายไรโบโซม มีฤทธิ์ทางชีวภาพอื่น ๆ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันและกดภูมิคุ้มกันได้ เห็ดที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์ทางยานั้น มีทั้งในรูปแบบเห็ดยาพื้นบ้าน ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน และยาที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน หรือ เห็ดยาทางการแพทย์
***ข้อควรระวัง***
การบริโภคเห็ดเป็นยานั้นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการบริโภคว่าควรบริโภคแบบใดและจำนวนที่ใช้ อย่างเคร่งครัด
เห็ดเป็นยาที่นิยมใช้และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน
เห็ดหอม การรักษา : ควบคุมภูมิคุ้มกัน ระงับการเจริญของเนื้องอก ต่อต้านไวรัส และแบคทีเรียปกป้องตับ การรับประทาน : ได้ทั้งแบบสด และแห้ง ( ในรูปชา หรือซุป ) สารสกัด และเม็ด ไม่มีพิษ
เห็ดหลินจือ การรักษา : กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ระงับการเจริญของเนื้องอก ขับเสมหะ ตับอักเสบ ความดัน โลหิต อ่อนเพลีย การรับประทาน : แบบแห้ง สารสกัด และเม็ด มีพิษน้อยมาก
เห็ดนางรม การรักษา : ระงับการเจริญของเนื้องอก ไขมันในหลอดเลือดสูง การรับประทาน : แบบสด (ปรุงเป็นอาหาร)แห้งและผงมีพิษน้อยมาก
เห็ดเข็มทอง การรักษา : โรคตับ แผลในกระเพาะอาหาร การรับประทาน : แบบสด (ปรุงเป็นอาหาร) และแห้งรับประทานดิบอาจมีพิษ
เห็ดเป็นยา ใช้รักษาโรคพื้นบ้านในภาคอีสาน
เห็ดขาแข็ง หรือ เห็ดจวักงู การรักษา : ใช้ฝนทาและกินแก้โรคขาอ่อน
เห็ดตาควาย เห็ดขาช้าง หรือ เห็ดปากหมูการรักษา : ปิดปากแผลเปื่อย
เห็ดด่างแห การรักษา : เข้ายารักษาโรคเรื้อน
เห็ดหลินจือ การรักษา : เข้ายาบำรุงกำลัง
เห็ดแดง การรักษา : เข้ายาบำรุงเลือด เข้ายาแก้ไข้หมากไหม้
เห็ดบก การรักษา : แก้ฟกช้ำภายใน
เห็ดกลางตอ การรักษา : แก้พิษที่ได้จากพืช
เห็ดบด การรักษา : ฝนกินแก้เม็ดตุ่มพองที่เกิดจากพิษไข้ แก้ปวดท้อง แก้พิษจากสัตว์ต่าง ๆ
เห็ดกระด้าง การรักษา : ต้มดื่มแก้อาการเมาเหล้าได้
เห็ดจิก การรักษา : ขับพยาธิ
เห็ดพิมาน การรักษา : แก้ฝีหนอง ตุ่มพุพอง แก้ไอ แก้โรคผิวหนัง เป็นหนอง เมื่อนำมาฝนกับกาฝากกระโดนช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
เห็ดขี้ควาย การรักษา : แก้ฝีดาษ ใช้ทำยานอนหลับ
เห็ดกับแก้ หรือ เห็ดขาม การรักษา : แก้พิษจากเห็ดต่างๆ และแก้เมื่อถูกคุณไสย
เห็ดปลวก การรักษา : แก้ปวดท้อง
เห็ดหูหนู การรักษา : ต้มกับน้ำตาลกรวดกินแก้ไอ
เห็ดเป็นยา(ตามภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้าน)
เห็ดจิก ( เห็ดกระโดนหรือเห็ดขอนจิก ) ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิโดยเฉพาะโดยพยาธิตัวแบนและตัวกลม แก้ท้องร่วง ป้องกันมะเร็งลำไส้รักษาโรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน และป้องกันมะเร็งผิวหนัง แก้โรคกระเพาะเรื้อรัง และป้องกันมะเร็งในกระเพาะอาหาร
เห็ดขอนซ้อนซ้อน ( เห็ดไมตาเกะ ) ใช้เสริมภูมิต้านทาน มีฤทธิ์ในการยับยั้งเนื้องอก กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด ทีเซลล์ มะเร็งปอด มะเร็งในเลือดมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการเจริญของกระดูกและเป็นยาขับปัสสาวะลดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง ลดอาการอ่อนเพลียในผู้ป่วยมะเร็งได้ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยมะเร็งเต้า-นม
เห็ดขอนหลากสี ใช้บำรุงกำลัง ฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยที่ให้เคมีบำบัด และฉายแสงจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันใหเกลับมาสู่ปกติ ( ลดอาการคลื่นอาเจียน อาการร้อนในผมร่วงให้น้อยลง ) กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ต่อต้านไวรัส ควบคุมคอเลสเตอรอลได้
เห็ดขี้ควาย ( เห็ดเมา เห็ดโอสถลวงจิต ) แก้งูสวัด และไฟลามทุ่มป้องกันการกลายเป็นมะเร็งผิวหนังและมะเร็งภายใน
ข้อควรระวัง : เนื่องจากเห็ดขี้ควายมีรสเมาเบื่อเป็นยาเย็น มีพิษแรง รสเบื่อเมาจัต ทานไม่ได้หากทานแล้วจะสลบ เมาหลับได้
เห็ดนมเสือ ( เห็ดขอนนมเสือเห็ดหงอนพญานาค ) ไม่ใช้บริเวณที่เป็นหมวกเห็ด แต่จะใช้เนื้อเห็ดที่อยู่บริเวณฐานก้านดอก ในตำรายาไทยมีสรรพคุณรสเย็น ดับพิษร้อน แก้หอบหืด แก้โรคตา บำรุงกำลัง ถอนพิษบาดแผลจากอาวุธ ถอนพิษแมลงกัดต่อย แก้เต้านมอักเสบ รักษาอาการปวดเต้านม ป้องกันมะเร็งเต้านม
เห็ดขอนขาแข็ง ( เห็ดขาแข็ง ) รักษาโรคกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงในเด็กจนถึงปัจจุบัน บรรเทาอาการอักเสบปวดบวมท้องในผู้ป่วยมะเร็งตับ ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งปอด
เห็ดขาม นำเห็ดสดมาต้มน้ำดื่มบำรุงกำลัง ช่วยให้ฟื้นตัวจากอาการป่วยต่างๆ (เห็ดขามหนา เห็ดซิ่นเหลื่อมเม็ด มะขามขาแดง) ใช้เป็นยาบำรุงประสาท บำรุงหัวใจและช่วยทำให้ระบบหายใจดีขึ้น ฟื้นฟูผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งตับและฝีในตับ
เห็ดจวักงู ( เห็ดงูเห่า เห็ดคันจอง )ทำให้ขาแข็งแรงขึ้น เช่นเดียวกับเห็ดขาแข็ง บำรุงกำลัง ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง รักษาพิษงูกัด
เห็ดซิ่น ( เห็ดซิ่น เห็ดหูช้าง ) เป็นยาบำรุงร่ายกาย ลดน้ำตาลในเลือด ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งและต้านทานมะเร็งทุกชนิด
เห็ดหลินจือขอบขาว ( เห็ดซิ่นเหลื่อมขอบขาว ) มีรสขม ใช้เป็นยาเหมือนเห็ดหลินจือ ลดน้ำตาลในเลือด ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง และต้านมะเร็งทุกชนิด กระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันมะเร็ง
เห็ดตอขาม ( เห็ดซิ่นเหลื่อม เม็ดมะขามขาแบน ) ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง รักษาบาดแผลเรื้อรัง หรือรักษาตุ่มที่เกิดจากไข้ต่างๆ ลดน้ำตาลในเลือด ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งและต้านมะเร็งทุกชนิด
เห็ดเนื้อย่าง ( เห็ดซิ่นตับ ) คนอีสานใช้บริโภคแทนเนื้อสัตว์ เช่น ทำลาบ ตำรับพื้นบ้านใช้กระตุ้นการหมุนเวียนเลือด ลดน้ำตาลในเลือด ฟื้นฟูมะเร็งและต้านมะเร็งทุกชนิด บรรเทาอาการปวดตามข้อเรื้อรัง (ชนิดขึ้นเป็นเม็ดตามข้อและอาการได้)
เห็ดเค็ง หรือ เห็ดกีบสัตว์ ใช้เป็นยา บำรุงกำลัง บำรุงเลือด รักษาเนื้องอก และกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งปอด ตับ กระดูก แก้มะเร็งที่เป็นก้อนให้ยุบตัว แก้ฝ้า
เห็ดต้นจิก ( เห็ดอุ้งตีนหมี เห็ดหิ้งพิมานเทา ) เป็นยาบำรุงเลือด ทำให้สตรีมีระดูตามปกติ แก้ตกขาว ต่อต้านเนื้องอก เป็นยาห้ามเลือด แก้ท้องร่วง ฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งให้แข็งแรงแก้มะเร็งที่เป็นก้อนให้ยุบตัว ลดการอักเสบของมะเร็งเต้านม แก้ฝ้า
เห็ดแดง ( เห็ดทิ้งชายธงสนิมแดง ) พอกหน้า ลดบวม แก้ปวดเมื่อย บำรุงกำลัง ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งปอด ตับ กระดูก แก้มะเร็งที่เป็นก้อนให้ยุบตัว
เห็ดตอจิก ( เห็ดหิ้งขอบเหลืองมัสตาร์ด ) ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งปอด ตับ กระดูก แก้มะเร็งที่เป็นก้อนให้ยุบตัว ลดการอักเสบของมะเร็งเต้านม แก้ฝ้า เห็ดพิมาน ( เห็ดกระถินพิมาน เห็ดเกือกม้า ) แก้ไฟลามทุ่ง ขยุ้มตีนหมา งูสวัด แก้พิษงู กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ปรับธาตุ ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือด เป็นยาอายุวัฒนะ สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันมะเร็งทุกชนิด
เห็ดแสดฮุง ( เห็ดหิ้งเม็ดทราย ) รักษาเนื้องอก บำรุงตับ บำรุงกำลัง แก้โรคกระเพาะ แก้ไข้ ขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ ล้างพิษ แก้งูสวัด แก้ท้องผูก ฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง ปอด ตับ ไต
เห็ดหิ้งเกือกม้าขม รักษาวัณโรค อีสุกอีใส ลดไข้ที่ทำให้เหงื่อออกตอนกลางคืน
ต่อต้านเนื้องอก บำรุงเลือดลมให้ปกติ แก้ริดสีดวงทวาร รักษาบาดแผล แก้พิษงู แผลจากงูกัด รักษาไข้หวัดนก
เห็ดหิ้งเข็มขัดแดง กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน รักษาบาดแผล แก้พิษงู แผลจากงูกัด ต้านแบคทีเรีย ยับยั้งเนื้องอก ต่อต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
เห็ดรังนก(เห็ดรังนกนางแอ่น) แก้ปวดท้องโรคกระเพาะ หยอดตา แก้เจ็บตา หรือเป็นตาแดง บำรุงสมอง บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ บำรุงโลหิต ป้องกันโรคมะเร็ง ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็ง สำหรับสูตรและวิธีรับประทาน เห็ดเป็นยา ที่ถูกต้องและได้ประโยชน์สูงสุดนั้น สามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก สื่อเผยแพร่ (ไฟล์ pdf) เห็ดเป็นยาเพื่อสุขภาพ ตามภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้าน : สำนักการแพทย์พื้นบ้านไทย. กรมการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
เห็ดเป็นยา ทางการแพทย์
เห็ดเป็นยา ทางการแพทย์นั้น คือเห็ดที่สามารถให้สารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และปลอดภัยต่อการบริโภค สารประกอบที่สกัดได้จากเห็ด ถูกเชื่อว่าให้ผลการรักษาโรคได้หลายกลุ่มอาการ ได้แก่
- ระบบภูมิคุ้มกันทำงานบกพร่อง
- หอบหืดที่เกิดจากภูมิแพ้
- การแพ้อาหาร
- โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
- การอักเสบต่างๆ ในร่างกาย
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- โรคผนังหลอดเลือดแข็งตัว
- ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
- การติดเชื้อ
ตัวอย่าง เห็ดเป็นยา ทางการแพทย์
- เห็ดไมตาเกะ (หรือ เห็ดขอนช้อนซ้อน)—ได้ชื่อว่าเป็น ‘ราชาของเห็ดทั้งปวง’ และนับเป็นหนึ่งในเห็ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เห็ดไมตาเกะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้ร่างกาย ปรับสมดุลของความดันโลหิต ระดับน้ำตาลและฮอร์โมนอินซูลินในกระแสเลือด ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด
- เห็ดยามาบูชิตาเกะ (หรือ เห็ดปุยฝ้าย เห็ดหัวลิง)—รักษาโรคระบบทางเดินอาหาร เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร และผิวหนัง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง บำรุงกำลัง
- เห็ดหลินจือ–เป็นเห็ดที่นำมาใช้เป็นยาทางการแพทย์มานานกว่า 2 พันปี จัดเป็นยาอายุวัฒนะ รักษาอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ กำจัดสารพิษ รักษาหอบหืด บรรเทาอาการไอ เสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง ปกป้องและบำรุงตับ ช่วยลดอาการหลอดเลือดหัวใจ ชะลอวัย ช่วยต้านแบคทีเรียและไวรัส
- เห็ดถั่งเช่า (หรือ เห็ดตังถั่งเฉ้า)—เป็นเห็ดอีกหนึ่งชนิดที่ใช้เป็นยาทางการแพทย์มานานเป็นพันปีเช่นกัน ในสมัยโบราณใช้เป็นยาสมุนไพรที่หายาก ราคาสูง จึงถูกจำกัดการใช้สำหรับชนชั้นสูง เพื่อเป็นยาโป๊ว บำรุงกำลัง บำรุงปอด ไต หัวใจ และระบบภูมิคุ้มกัน ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นเห็ดที่มีราคาแพง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บำรุงร่างกายให้หายเหนื่อย บำรุงไต ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด บำรุงปอด กระตุ้นการผลิตฮอร์โมน และ ต้านมะเร็ง
- เห็ดชิตาเกะ (หรือ เห็ดหอม)—เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยชะลอความชรา ทำให้เลือดลมดี รักษาโรคหวัด โรคหัวใจ แก้พิษงู ยับยั้งหรือป้องกันการเติบโตของเซลล์เนื้องอกต่างๆ ลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้านโรคมะเร็ง และโรคร้ายต่างๆ จากเชื้อไวรัส
- เห็ดแครง (หรือ เห็ดตีนตุ๊กแก)—มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตและแพร่กระจายของเนื้องอก เพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกัน ช่วยขับปัสสาวะ
- เห็ดเตอร์กี้ เทล—รักษาโรคมะเร็ง โรคปอดติดเชื้อ กำจัดเสมหะ และโรคตับอักเสบ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ต่อต้านมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปอด ลดไขมันไม่ดีชนิด LDL ต้านเชื้อไวรัสบางจำพวก
- เห็ดฮิเมะ มัตสึทาเกะ—ช่วยร่างกายผลิตสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาล และคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด
วิธีรับประทาน เห็ดเป็นยา ทางการแพทย์
โดยทั่วไปการรับประทาน เห็ดเป็นยา ทางการแพทย์ให้ได้รับประโยชน์สูงสุดกับร่างกาย จำเป็นต้องมีการสกัดด้วยกรรมวิธีเฉพาะ เช่น การสกัดด้วยไอน้ำภายใต้อุณหภูมิและความดันที่เหมาะสม ทั้งนี้เนื่องจากสาระสำคัญที่ให้ประโยชน์ทางการแพทย์ จะถูกสกัดออกมาจากผนังเซลล์ของเห็ดได้ด้วยกรรมวิธีนี้ได้มากที่สุด
ดังนั้น การประกอบอาหารด้วยการผัด ต้ม ตุ๋น นึ่ง แบบปกติสามารถทำให้เห็ดสุกเหมาะกับการรับประทานได้ก็จริง แต่จะไม่สามารถดึงเอาสารสำคัญที่มีประโยชน์จากเห็ดทางการแพทย์มาใช้ได้สูงสุด
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : คลิ๊กที่นี่
( ดัดแปลงข้อมูลจาก www.เกร็ดความรู้.net/เห็ด 8 เห็ดเป็นยา & 8 เห็ดเศรษฐกิจ (ทำเงิน) )