ลูกเดือย
ลูกเดือย คือ ธัญพืชที่ผู้เขียนชอบรับประทานที่สุดในบรรดาธัญพืชทั้งหมดทั้งมวน ไม่ว่าจะใส่น้ำเต้าหู้ ลูกเดือยเปียกราดน้ำกะทิ หรือน้ำลูกเดือย อร่อยทั้งนั้นนะคะ
ลูกเดือยไม่ได้มีประโยชน์ สำหรับรับประทานเท่านั้น ติดตามต่อในบทความนี้แล้วท่านผู้อ่านจะได้รู้จักสรรพคุณและประโยชน์ต่างๆ ของลูกเดือยมากขึ้น
ในประเทศไทย ลูกเดือย เป็นที่รู้จักทั่วทุกภาค ถิ่นใด ภาษาใด คนไทยก็เรียก ลูกเดือย พบการปลูกลูกเดือยในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2503 ที่เขตนิคมสร้างตนเองของ จ.สระบุรี ลพบุรี และนครราชสีมา ปัจจุบันพบปลูกมากในภาคอีสาน และภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเลยที่ปลูกมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศซึ่งผลผลิตส่วนใหญ่จะส่งออกต่างประเทศ เคยเห็นต้นลูกเดือยกันบ้างมั๊ยคะ? (มีภาพมาฝาก)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของลูกเดือย
ลำต้น
ลำต้นลูกเดือยมีลักษณะเหมือนกับหญ้าทั่วไป มีลำต้นเป็นไม้เนื้ออ่อน ทรงกลม ตั้งตรง สูงประมาณ 1 ถึง 3.5 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้อง มีใบแตกออกบริเวณข้อ ผิวลำต้นเรียบเป็นสีเขียวอมเทาและมีนวลขาวปกคลุม เมื่อลำต้นมีอายุตั้งแต่ 2 เดือน ขึ้นไป จะแตกลำต้นหรือเหง้าเพิ่มเป็น 4 ถึง 5 ลำต้น
ใบ
ลูกเดือยเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบเป็นแผ่นเรียวยาว สีเขียวสด แผ่นใบด้านล่างมีสีจางกว่า ยาวประมาณ 20 ถึง 45 เซนติเมตร ปลายใบแหลม แผ่นใบมีเส้นกลางใบชัดเจน ขอบใบเรียบและมีความคมสามารถบาดมือได้
ดอก
ดอกลูกเดือยคล้ายกับดอกของหญ้าทั่วไป แทงออกเป็นช่อตรงปลายยอดของลำต้น มีช่อดอกยาวประมาณ 3 ถึง 8 เซนติเมตร ดอกลูกเดือยแต่ละดอก มีกระเปราะที่มีเปลือกหุ้ม ซึ่งจะพัฒนาเป็นผลหรือเมล็ด
ผลและเมล็ด
ผลของลูกเดือยจะเรียกว่า ผลปลอม เพราะมีเฉพาะเมล็ดที่อยู่ด้านใน ซึ่งจะประกอบด้วยเปลือกหุ้มเมล็ดสีน้ำตาล เปลือกหุ้มนี้ค่อนข้างบาง แต่แข็งติดกับเมล็ด ถัดมาด้านในสุดจะเป็นเมล็ดที่มีลักษณะรูปหัวใจ ซึ่งจะมีร่องเว้าตรงกลางของเมล็ด ขนาดกว้าง และยาวประมาณ 8 ถึง 12 มิลลิเมตร
ชนิดของลูกเดือยในประเทศไทย
-
- ลูกเดือยหิน
เป็นชนิดลูกเดือยที่ไม่นำมารับประทาน เนื่องจากมีแป้งน้อย เปลือกและเนื้อเมล็ดแข็งมาก พบมากในภาคเหนือโดยเฉพาะบนภูเขาสูง ลำต้นไม่สูงมาก เปลือกมันวาว และมีหลายสี นิยมใช้ทำเครื่องประดับ - ลูกเดือยหินขบ
เป็นชนิดเดือยที่รับประทานได้ แต่นิยมเฉพาะในท้องถิ่น เมล็ดลูกเดือยมีรูปร่างกลม ขนาดเมล็ดใหญ่ประมาณ 10 ถึง 12 มิลลิเมตร เปลือกและเนื้อเมล็ดแข็งปานกลาง เมล็ดมีสีน้ำตาลอมเทา ลำต้นสูงประมาณ 2 เมตร พบปลูกในทางภาคเหนือ - ลูกเดือยทางการค้า
เป็นชนิดที่นิยมปลูกและนิยมรับประทานกันในปัจจุบัน มีลักษณะเมล็ดคล้ายข้าวสาลี มีเปลือกบาง สีขาวขุ่นหรืออมสีน้ำตาล เมล็ดมีร่องตามแนวยาว แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
– ลูกเดือยข้าวเหนียว เป็นชนิดที่นิยมรับประทานกันมากที่สุด มีลำต้นสีเขียวอมเหลือง และลำต้นเตี้ยกว่าลูกเดือยข้าวเจ้า แต่มีขนาดเมล็ดใหญ่กว่าเดือยข้าวเจ้า เมล็ดมีลักษณะกลมป้อมและสั้น สีเทาอ่อน เปลือกเมล็ดบางและปริแตกง่ายกว่าเมล็ดเดือยข้าวเจ้า มักแตกหักง่ายขณะสีเปลือก เมื่อต้มจะให้แป้งสุกที่เหนียวลื่นและเป็นเมือกคล้ายกับแป้งข้าวเหนียว
– ลูกเดือยข้าวเจ้า ขนาดผลเล็ก มีรูปร่างค่อนข้างยาว และมี เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาลเข้ม เปลือกและเนื้อเมล็ดค่อนข้างแข็ง เมื่อต้มสุกจะให้แป้งที่ไม่เหนียวและไม่เป็นเมือก ไม่แตกหักง่ายขณะสีเปลือก
- ลูกเดือยหิน
สรรพคุณลูกเดือย
- ผลหรือลูกเดือย
– ช่วยต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเนื้องอก
– ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต และช่วยให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ
– ช่วยบำรุงกระดูก
– ช่วยบำรุงสายตา
– ช่วยแก้อาการเหน็บชา
– ช่วยบำรุงกำลังบำรุงร่างกาย และช่วยให้คนไข้พักฟื้นตัวได้เร็ว
– ช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีความชุ่มชื่น
– ช่วยแก้ร้อนใน
– ช่วยลดไข้ บรรเทาอาการปวดหัว
– ช่วยบำรุง ตับ ไต กระเพาะอาหาร และม้าม และช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร และลำไส้
– ช่วยบำรุงเลือดในสตรีหลังคลอดบุตร
– ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน
– ช่วยรักษาอาการท้องร่วง
– ช่วยแก้อาการบวมน้ำ
– ช่วยแก้อาการปวดข้อเรื้อรัง
– ช่วยย่อยอาหาร
– ช่วยรักษาอาการกล้ามเนื้อชักกระตุก
– ช่วยรักษาการตกขาวผิดปกติในสตรี
– ช่วยแก้อาการหลอดลมอักเสบ
– ช่วยลดน้ำคั่งในปอด
– ช่วยรักษาฝีในลำไส้ และช่วยในการขับเลือด ขับหนอง
– ช่วยรักษาอาการเอ็นตึงรั้ง
– ช่วยรักษาโรครูมาติซึม
– ใช้รักษาวัณโรค
– ใช้รักษาโรคหูด - ใบ และลำต้น
– ใช้ชงดื่มเป็นยาขับปัสสาวะ
– ช่วยแก้โรคผิวหนัง ลดอาการผื่นคัน โดยนำทั้งต้น และใบมาต้มน้ำอาบ
– ช่วยรักษาอาการปัสสาวะเหลืองขุ่น - รากลูกเดือย (มีรสขมเล็กน้อย)
– ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดที่ผิวหนัง
– ช่วยบำรุงเส้นผม ทำให้ดำดก
– ช่วยขับปัสสาวะ (นำมาต้ม-ดื่ม)
– ช่วยลดไข้
– ช่วยขับพยาธิ
– ข่วยรักษาอาการดีซ่าน
– ช่วยรักษาอาการบวมน้ำ
– ช่วยรักษาโรคหนองใน
– ช่วยรักษาข้อเข่าเสื่อม ลดอาการปวดตามข้อ
– ช่วยรักษาอาการตกขาว
– ช่วยกระตุ้นประจำเดือนให้มาปกติ
– ช่วยต้านอาการอักเสบจากการติดเชื้อ
– ช่วยต้านอักเสบที่ผิวหนัง
– ใช้เป็นยานอนหลับ และระงับอาการปวด
– ช่วยคลายกล้ามเนื้อ
– ช่วยบำรุง และกระตุ้นการงอกของผม
ประโยชน์สำหรับสตรีมีครรภ์
- ลูกเดือยเป็นอาหารที่มีรสจืด ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โดยนำมาต้มรับประทานแบบไม่ใส่น้ำตาล หรือจะหุงรวมไปในข้าวเพื่อทำเป็นข้าวผสมธัญพืช หรือผสมกินกับน้ำเต้าหู้ หรือนำมาทำเป็นน้ำลูกเดือยไว้ดื่มเพื่อสุขภาพ
ประโยชน์ของลูกเดือย
- ทำขนมหวาน
- นำไปหุงพร้อมกับข้าวสวยรับประทาน
- ใช้ทำแป้งลูกเดือยสำหรับทำขนมของหวาน
- ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารเสริมสำหรับบำรุงสุขภาพ
- นำมาตากแห้ง แล้วบดเป็นผงชงเป็นชาหรือน้ำเมล็ดธัญพืชดื่ม
- ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์หรือใช้เลี้ยงสัตว์
- ใช้ลูกเดือยหินทำเครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ตกแต่งเสื้อผ้า
คุณค่าทางโภชนาการของลูกเดือย
โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ซิลิคอนไดออกไซด์ แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส
สูตรน้ำลูกเดือย
ส่วนผสม
- ลูกเดือย 100 กรัม
- ธัญพืชอื่นๆ
- เม็ดบัว
- อัลมอนด์
- น้ำตาลทราย
- น้ำเปล่า 6 ถ้วย
วิธีทำ
- แช่ลูกเดือยไว้ 1 คืน เพื่อให้ลูกเดือยนิ่ม
- นำลูกเดือยที่นิ่มแล้ว ใส่ลงในเครื่องปั่นแล้วเติมน้ำตาม ปั่นให้ละเอียดตามต้องการ
- นำไปกรองเพื่อแยกน้ำกับกากออกจากกัน
- นำน้ำลูกเดือยที่กรองแล้วไปตั้งบนไฟอ่อน ๆ เติมน้ำตาลทรายลงไปให้ออกรสหวานตามชอบ
- คนจนน้ำตาลละลายหมดแล้ว จึงยกขึ้นพักไว้ให้ความร้อนคลายตัว แล้วนำมารับประทานได้ทั้งร้อนทั้งเย็น
ติดตามขั้นตอนการปลูกในบทความ ‘การปลูกลูกเดือย และการดูแลหลังการปลูก’
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : คลิ๊กที่นี่
(แหล่งข้อมูล : https://th.theasianparent.com, www.sukkaphap-d.com, www.puechkaset.com)