การเพาะเห็ดถั่งเช่าเห็ดยาราคาแพง
เห็ดถั่งเช่า เห็ดยา ราคาแพง
เห็ดถั่งเช่า หรือ ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า
จัดเป็นสมุนไพรจีน ซึ่งมีความหมายว่า “หญ้าหนอน” หรือ “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” สามารถพบได้ในทิเบต มณฑลชิงไห่ มณฑลเสฉวน มณฑลยูนนาน มณฑลกานซู แถบเทือกเขาหิมาลัยในอินเดีย ภูฏาน และเนปาล เห็ดถั่งเช่า เป็นเห็ดราชนิดหนึ่งชอบขึ้นในช่วงฤดูหนาว และเป็นปรสิตที่อาศัยอยู่กับตัวอ่อนของหนอนชนิดหนึ่ง เมื่อถึงฤดูร้อนตัวหนอนจะตาย แล้วเห็ดราก็จะงอกออกจากตัวหนอน ออกมาเป็นเส้นตรงส่วนหัวของหนอน ซึ่งเราจะเรียกว่า ถั่งเช่า หรือ เห็ดถั่งเช่า เห็ดถั่งเช่า มีราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 60,000-100,000บาท มีหลายคนสงสัยว่าทำไมถึงได้แพงมหาศาลขนาดนี้ ? ด้วยสรรพคุณที่มีมากมาย ทำให้เห็ดถั่งเช่ามีความต้องการในท้องตลาดสูง ยาบำรุงสมุนไพรจะมีอยู่ด้วยกันหลายขนาน แบ่งเป็นยาบำรุงอย่างอ่อน อย่างกลาง และอย่างแรง โดย เห็ดถั่งเช่า จัดเป็นยาบำรุงอย่างแรง การใช้สมุนไพรชนิดนี้จึงต้องให้แพทย์เป็นคนสั่งจ่ายและต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น สำหรับในทางสรรพคุณของถั่งเช่า ถ้าร่างกายไม่ได้อ่อนเพลียหรือเป็นอะไรมากจริง ๆ ก็ควรจะใช้สมุนไพรชนิดอื่นที่มีสรรพคุณคล้าย ๆ กันแทนไปก่อน
สรรพคุณ เห็ดถั่งเช่า
- ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เพิ่มภูมิต้านทานโรค ทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ชราและความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย
- ช่วยในด้านอารมณ์ ช่วยระงับประสาท ทำให้จิตใจสงบ ลดอาการหงุดหงิดง่าย
- ช่วยเพิ่มความจำ ป้องกันโรคความจำเสื่อม ช่วยลดการตายของเซลล์ในสมอง
- ช่วยบำรุงหลอดเลือด
- ช่วยบำรุงปอด ช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก
- ช่วยในเรื่องระบบทางเดินหายใจ แก้อาการไอเรื้อรัง รักษาถุงลมโป่งพอง ช่วยบำบัดโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
- ช่วยบรรเทาและรักษาอาการของโรคหอบหืด
- ช่วยแก้วัณโรค ถุงลมโป่งพองหรืออาการผิดปกติในระบบปอดและหัวใจ
- ช่วยละลายเสมหะ หยุดอาการเลือดออกทางเสมหะ
- ช่วยรักษามะเร็ง ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งและลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้
- ช่วยลดความดันโลหิต อาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยเบาหวานไวต่ออินซูลินมากขึ้น ช่วยจัดการน้ำตาลในร่างกายได้ดีขึ้น
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และรักษาสมดุลของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด
- ช่วยต่อต้านไม่ให้เกิดไขมันแข็งตัวจากการถูกออกซิไดซ์โดยอนุมูลอิสระ
- ช่วยป้องกันไขมันเลว (LDL) ไม่ให้เกาะในหลอดเลือด
- ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้คล่องตัว ช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มปริมาณของเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงปอดและหัวใจ เพิ่มระดับออกซิเจนและช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการขาดออกซิเจน
- ช่วยบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของตับและไตให้ดีขึ้น
จากงานวิจัยพบว่าถั่งเช่าช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังมีอาการดีขึ้นมากถึง 51% หลังจากรักษาด้วยถั่งเช่าเพียง 1 เดือน
- ช่วยรักษาคนไข้ที่ธาตุหยางพร่องในไต (หรืออาการปวดหลัง กลัวหนาว หัวเข่าเย็น หรือปัสสาวะบ่อย)
- มีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งพิษจากแบคทีเรีย รวมไปถึงแบคทีเรียวัณโรคด้วย
- ถั่งเช่ามีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
- ช่วยห้ามเลือด
- สำหรับนักกีฬาสมุนไพรชนิดนี้จะช่วยเพิ่มสมรรถนะของนักวิ่งให้ดียิ่งขึ้น
- ประโยชน์ถั่งเช่าสำหรับสตรี ใช้เป็นยาบำรุงช่วยทำให้มีบุตรง่ายขึ้น ช่วยปรับประจำเดือน ทำให้เลือดลมเดินดีขึ้น
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้แลดูอ่อนเยาว์
- ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ มีฤทธิ์บำรุงกำลังทางเพศ ช่วยให้อสุจิแข็งแรง เนื่องจากการกินถั่งเช่าจะส่งผลให้มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศมากขึ้น ซึ่งจากงานวิจัยในต่างประเทศพบว่าการกินถั่งเช่าวันละ 1 กรัม เป็นเวลา 46 วันจะช่วยให้สมรรถภาพทางเพศเพิ่มมากขึ้นถึง 64% เลยทีเดียว (แต่ยังไม่มีงานวิจัยรับรองมากนัก นอกจากงานวิจัยที่ได้ทดลองในหมูป่าที่พบว่ามันมีสรรถภาพทางเพศที่ดีขึ้น)
เห็ดถั่งเช่า ที่มีชื่อเสียง มีอยู่ 4 ชนิด ได้แก่
- เห็ดถั่งเช่าทิเบต หรือ ถั่งเช่าแท้—จัดว่ามีชื่อเสียงและมีค่ามากที่สุดในบรรดาราแมลงในสกุลถั่งเช่า ชาวเอเชียนิยมรับประทานเป็นยาสมุนไพรมาเป็นระยะเวลายาวนานนับพันปี รับประทานแล้วดีต่อสุขภาพ จัดเป็นยาบำรุงชั้นเลิศที่ร่ำลือกันไปทั่ว ในปัจจุบัน แม้ว่าจะสามารถทำการเพาะเห็ดถั่งเช่าทิเบตในห้องปฏิบัติการได้ แต่ผู้บริโภคนิยมเห็ดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมากกว่า
- เห็ดถั่งเช่าสีทอง—มีการเพาะเห็ดถั่งเช่าสีทองกันมาหลายสิบปีแล้วในต่างประเทศ เห็ดถั่งเช่าสีทองสามารถทำการเพาะได้โดยใช้ตัวหนอนเพาะ หรือใช้อาหารสังเคราะห์ ถั่งเช่าที่วางจำหน่ายทั่วไปในขณะนี้โดยมากเป็นถั่งเช่าสีทอง มีรายงานหลายฉบับยืนยันว่า ถั่งเช่าสีทองมีคุณสมบัติเทียบเท่าถั่งเช่าทิเบต
- เห็ดถั่งเช่าหิมะ (ถั่งเช่าเกาหลี)—มีสรรพคุณช่วยลดความอ้วน ลดคลอเรสเตอรอล ไขมัน น้ำตาลในเลือด ลดฝ้า ทำให้หน้าขาว นิยมเพาะเลี้ยงโดยใช้หนอนไหม ชาวเกาหลีนิยมบริโภคเพื่อป้องกันโรคมะเร็งโดยนำมาอบแห้งทำเป็นผงใช้ปรุงอาหารต่างๆ
- เห็ดถั่งเช่าจักจั่น หรือว่านเรไร—เป็นดอกเห็ดที่ขึ้นบนตัวอ่อนของจักจั่น สามารถเพาะเลี้ยงได้โดยไม่ต้องอาศัยห้องเย็น มีสรรพคุณช่วยลดความดัน บำรุงสายตา ป้องกันต้อหิน การติดเชื้อไวรัสลงตา (งูสวัด) รักษาโรคสะเก็ดเงิน โรคลมชักในเด็ก และโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท
ข้อควรระวัง: เห็ดถั่งเช่า มีหลายสายพันธุ์ มีความหลากหลายของจำนวนชนิดและแมลงอาศัย เช่น มด ผึ้งต่อ แตน แมงมุม เพลี้ย ด้วง แมลงปอ ผีเสื้อ และหนอน โดยทั่วไปราแมลงจะมีความจำเพาะกับแมลงเจ้าบ้านชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น หรือใกล้เคียงแมลงเจ้าบ้านชนิดนั้นๆ และไม่เป็นอันตรายกับคน แต่อย่างไรก็ตาม มีเชื้อราเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่สามารถรับประทานได้ และในผู้ที่เป็นภูมิแพ้ก็อาจเกิดอาการแพ้เชื้อราเหล่านี้ได้, เห็ดถั่งเช่า มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดจะไปสัมฤทธิ์กับยาลดน้ำตาลในเลือด สำหรับการใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน, ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด เนื่องจากเห็ดถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด และควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้เพราะเห็ดถั่งเช่ามีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
การเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่า
สามารถทำได้ 2 แบบใหญ่ๆ ได้แก่
1.การเพาะด้วยตัวหนอน
เพาะเห็ดถั่งเช่าจากหนอน
สามารถเพาะเลี้ยงถั่งเช่าหิมะได้สำเร็จและให้ผลผลิตเป็นอย่างดี การเพาะเชื้อราบนดักแด้หนอนไหมมีขั้นตอน คือ การนำดักแด้ไหมแช่น้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วฉีดสารละลายเข้าไปในตัวดักแด้หนอนไหม หรือจุ่มดักแด้ในสารละลายที่มีหัวเชื้อราเห็ดถั่งเช่าหิมะ หลังจากนั้น นำไปเก็บในห้องมืดที่อุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25-30 วัน เพื่อให้เส้นใยเห็ดเจริญเติบโตเต็มที่
2.การเพาะด้วยอาหาร
อาหารเหลวสำหรับผลิตเชื้อ เห็ดถั่งเช่า :
1.น้ำตาลทราย5%, น้ำตาลกลูโคส1.5%, แป้งมันฝรั่ง 0.2%, วุ้น 0.01%, เปบโตน 0.05%, ปุ๋ย (0-52-34) 0.1%, ดีเกลือ 0.05%, วิตามินบี-1 0.01%, น้ำมันพืช 0.03% , สารป้องกันการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์อื่นๆ 10%
2.ผสมส่วนผสมทั้งหมดในน้ำ ต้มนาน ครึ่งชั่วโมง
3.ทิ้งให้เย็น ใส่เชื้อ นำไปบ่มที่22-24 เซลเซียส นาน 3 วัน
4.เป่าลมให้อากาศ อีก48-60 ชั่วโมง
5.นำไปใช้เป็นเชื้อเห็ด โดยผสมน้ำที่นึ่งฆ่าเชื้อแล้วอีก5 ส่วน ใช้ 100 มล.ต่อวัสดุเพาะครึ่งกิโลกรัม
อาหารแข็งสำหรับเพาะ เห็ดถั่งเช่า :
1.สารละลายน้ำตาลทราย5%, น้ำตาลกลูโคส 1.5%, ปุ๋ย (0-52-34) 0.1%, ดีเกลือ 0.05%, สารป้องกันการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์อื่นๆ 10%
2.ข้าว หรือเมล็ดธัญพืชต่างๆ
3.ใช้สารละลาย5 ส่วน ต่อข้าว1 ส่วน
4.ผสมส่วนผสมทั้งหมด ต้มนาน ครึ่งชั่วโมง
5.ตักแบ่งใส่ภาชนะบรรจุ
6.ทิ้งให้เย็น
7.ใส่เชื้อเห็ด
8.นำไปบ่มในที่มืด อุณหภูมิ20-22 เซลเซียส ความชื้น 60-70% 10-15 วัน
9.ลดอุณหภูมิลงที่18-20 เซลเซียส ให้แสงวันละ 12-14 ชั่วโมง เจาะรูพลาสติกที่ปิดปากภาชนะบรรจุ 3-4 รู .ให้ความชื้น 85-95% จะเริ่มเห็นดอกเห็ดภายใน 1 สัปดาห์
10.เก็บเกี่ยวได้หลังจากเห็นดอกเห็ด ประมาณ1 เดือน
11.นำเห็ดไปอบแห้งที่อุณหภูมิ ไม่เกิน60 เซลเซียส
อัตราเปลี่ยนอาหารเป็นเห็ดอยู่ที่ 80-90%(สด) หรือ 13%( แห้ง)
วิธีการเพาะเห็ดถั่งเช่า
สูตรถั่งเช่า สูตรที่1 สูตรนึ่งด้วยหม้อนึ่งธรรมดาหรือหม้อหุงข้าว
- มันฝรั่ง 200 กรัม
- น้ำ 1 ลิตร (ใช้น้ำที่สะอาด พีเอชเป็นกลาง)
- ข้าวกล้อง 1 กิโลกรัม (นิยมใช้ข้าวสังข์หยด) อาจใช้ ดักแด้ไหม, หนอนรถด่วน, ลูกเดือย, ข้าวโพด, ข้าวฟ่าง,ถั่วแดง,ข้าวญี่ปุ่น ก็ใช้แทนได้
- เปปโตน 10 กรัม (อาจใช้นมผงสำหรับเด็กทารกแรกเกิดแทนได้)
- ยีสต์สกัด 10 กรัม (อาจใช้ไข่ไก่ 1ฟองต้มปั่นให้ละเอียดแทนได้)
- วิตามินบี 1 3 เม็ด (เป็นเม็ดสีแดงนำมาบดให้ละเอียด)
- น้ำตาลทรายแดง 10 กรัม (อาจใช้น้ำตาลกลูโคสก็ได้)
- ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 50 ซีซี
- น้ำส้มสายชู 10 ซีซี
- ขวดแก้วมีฝาปิด 16 ออนซ์ หรือ 20 ออนซ์
(อาจเจาะฝาพลาสติกเป็นรูประมาณ1.5 เซนติเมตรแล้วเอาสำลีอุดจุกไว้)
วิธีทำ
- นำมันฝรั่งหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ขนาดประมาณ 1นิ้วx1นิ้ว หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปต้มกับน้ำ 1 ลิตร ประมาณ 20-30 นาที
- กรองเอามันฝรั่งออก ใช้แต่น้ำ ตั้งพักไว้ให้เย็น แล้วใส่ เปปโตน, ยีสต์ , วิตามินบี, น้ำตาลทรายแดง, ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และน้ำส้มสายชู แล้วคนให้เข้ากัน (ใส่น้ำส้มสายชูเพื่อไม่ให้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์เป็นฟอง)
- ตักข้าวกล้องใส่ขวดโหล ประมาณ 50-70 กรัม ตักน้ำที่ผสมไว้ ใส่ขวดโหลแค่ท่วมข้าวพอปริ่มๆ แล้วปิดฝา นำขึ้นนึ่งในลังถึงธรรมดา นับตั้งแต่เดือด 20 นาที หรือ ตั้งแต่เปิดแก๊สนับไป 30 นาที
- พอข้าวสุกแล้วเอาออกจากหม้อ ตั้งพักไว้ให้เย็น แล้วนำไปหยดเชื้อเห็ด พอเสร็จแล้วนำเข้าตู้เย็น (วิธีการหยดเชื้อเห็ด ให้หยดในตู้ฆ่าเชื้อ เปิดหลอดยูวี หากไม่มี ให้ใช้ห้องที่สะอาด ปิดมิดชิด แล้วเช็ดหน้าโต๊ะด้วยแอลกอฮอล์ (70%) ฉีดที่มือทั้งสองข้าง แล้วใช้ไซริงค์ปราศจากเชื้อ ดูดเชื้อเห็ดใส่ลงไปทั่วๆ ประมาณ 1-2 ซีซี
สูตรถั่งเช่า สูตรที่2 สูตรหม้อนึ่งแรงดันเท่านั้น
- เปปโตน 10 กรัม (อาจใช้นมผงสำหรับเด็กทารกแรกเกิดแทนได้)
- ยีสต์สกัด 10 กรัม
- มันฝรั่ง 200 กรัม
- น้ำตาลกลูโคส 10 กรัม (อาจใช้น้ำตาลทรายแดงแทนได้)
- ข้าวกล้อง 1 กิโลกรัม (นิยมใช้ข้าวสังข์หยด) อาจใช้ ดักแด้ไหม, หนอนรถด่วน, ลูกเดือย, ข้าวโพด, ข้าวฟ่าง, ถั่วแดง, ข้าวญี่ปุ่น ก็ใช้แทนได้
- หนอนไหม 0.5 กิโลกรัม
- น้ำ 1 ลิตร (ใช้น้ำที่สะอาด พีเอชเป็นกลาง)
- วิตามินบี 1 3 เม็ด (เป็นเม็ดสีแดงนำมาบดให้ละเอียด)
- ขวดแก้วมีฝาปิด 16 ออนซ์ หรือ 20 ออนซ์
(อาจเจาะฝาพลาสติกเป็นรูประมาณ 1.5 เซนติเมตรแล้วเอาสำลีอุดจุกไว้)
วิธีทำ
- นำมันฝรั่งหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ขนาดประมาณ 1นิ้วx1นิ้ว หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปต้มกับน้ำ 1 ลิตร ประมาณ 20-30 นาที
- กรองเอามันฝรั่งออก ใช้แต่น้ำ ตั้งพักไว้ให้เย็น แล้วใส่ เปปโตน, ยีสต์, น้ำตาลกลูโคส แล้วใส่วิตามิน คนให้เข้ากัน
- ตักข้าวกล้องใส่ขวดโหลประมาณ 50-70 กรัม ตักน้ำที่ผสมไว้ใส่ขวดโหลแค่ท่วมข้าวพอปริ่มๆ แล้วปิดฝา นำเข้าหม้อนึ่งแรงดัน (อุณหภูมิที่ 121 องศาเซลเซียส แรงดัน 15 ปอนด์) เป็นเวลา 20 นาที นำออกจากหม้อ พักขวดไว้ให้เย็น แล้วหยดเชื้อ นำเข้าตู้เย็นไปเพาะเลี้ยง (วิธีการหยอดเชื้อเห็ด ให้หยอดในตู้ฆ่าเชื้อ หากไม่มี ให้ใช้ห้องที่สะอาด ปิดมิดชิด แล้วเช็ดหน้าโต๊ะด้วยแอลกอฮอล์ (70%) ฉีดที่มือทั้งสองข้าง แล้วใช้ไซริงค์ปราศจากเชื้อ ดูดเชื้อเห็ดใส่ลงไปทั่วๆประมาณ 1-2 ซีซี
- เก็บดอกเห็ดโดยใช้มีดสเตนเลส ตัดแบบเค้กเป็น 4 ส่วน แล้วเฉือนดอกออกเลย เก็บดอกเห็ดไปอบที่ 40 องศาเซลเซียส 3ชั่วโมง (เชื้อในขวดอยู่ได้ 2 เดือน อย่าเก็บไว้นานกว่านี้)
วิธีการบ่มเชื้อ เห็ดถั่งเช่า
ระยะแรก บ่มที่ 25 องศาเซลเซียส ความชื้น 80 ปิดไว้ในที่มืด 3 วัน (3 วันจะเริ่มเห็นเชื้อเห็ดเป็นจุดขาวๆ ถ้าเป็นราสีขาวฟูๆ คล้ายสำลีเป็นเชื้อปนเปื้อน ราเห็ดจะต้องฟูเป็นกำมะหยี่) เมื่อได้ 1เดือน ถึง 1 เดือนกับอีก 10วัน ให้ดูว่าเส้นใยสีขาวเดินลงกินข้าวหรืออาหารหมดหรือยัง ถ้าด้านบนขึ้นเต็มแล้ว ให้เปิดหลอดไฟ (500-2000 ลักซ์) ลดอุณหภูมิเหลือ 18 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 อาทิตย์ จนกว่าจะมีตุ่มดอกแทงออกมา ปรับอุณหภูมิเป็น 25 องศาเซลเซียสเช่นเดิม แล้วให้แสงตลอด ถ้าไฟไม่ถึง ดอกจะยืดๆ ไฟประมาณ 1000 ลักซ์จะดีที่สุด โดยใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ 40 w ถ้าวัดแสงต้องวัดตรงโหล โดยไฟหนึ่งหลอดห่างโหลประมาณ 1 ไม้บรรทัด หากใช้ตู้เย็นบ่มเห็ด ต้องเปิดระบายอากาศทุกเช้า เพราะตู้อาจจะอับได้ ควรเปิดอัลตร้าโซนิค 6 ชั่วโมงช่วงกระตุ้นดอก 7 วันเท่านั้น
อุณหภูมิ
- เชื้อเห็ดจะเดินเต็มในอาหารเพาะเลี้ยงที่อุณหภูมิ 22-25องศาเซลเซียส เป็นเวลา3สัปดาห์
- เชื้อเห็ดที่เดินเต็มแล้วจะสามารถเกิดดอกเห็ดได้ดีที่อุณหภูมิ 15-18องศาเซลเซียส เป็นเวลา1สัปดาห์
- หลังจากนั้นจะกระตุ้นให้เกิดดอกเห็ดที่สมบูรณ์ต้องปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้นไปที่ 22-25องศาเซลเซียส
ความชื้น
- เชื้อเห็ดจะเดินเต็มในอาหารเพาะเลี้ยงที่ความชื้นประมาณ60% เป็นเวลา3สัปดาห์
- เชื้อเห็ดที่เดินเต็มแล้วจะสามารถเกิดดอกเห็ดได้ดีที่ความชื้นประมาณ60-70% เป็นเวลา1สัปดาห์
- หลังจากนั้นจะกระตุ้นให้เกิดดอกเห็ดที่สมบูรณ์ต้องปรับความชื้นเพิ่มขึ้นไปที่ประมาณ80-90%
แสง
- เชื้อเห็ดจะเดินเต็มในอาหารเพาะเลี้ยงต้องบ่มไว้ในที่มืด
- เชื้อเห็ดที่เดินเต็มแล้วจะสามารถเกิดดอกเห็ดได้ดีต้องให้แสงประมาณ500 ลักซ์ วันละ12-14ชั่วโมง
- หลังจากนั้นจะกระตุ้นให้เกิดดอกเห็ดที่สมบูรณ์ต้องให้แสงประมาณ 600-1,000 ลักซ์
เครดิตรูป : Mthai
โรงเห็ดถั่งเช่าสีทอง
- ในระยะเชื้อเห็ดเดินในอาหารเพาะเลี้ยง เราจะทำห้องมืดที่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้สม่ำเสมอได้ด้วยเครื่องสร้างหมอก น้ำโดยเครื่องนี้สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในห้องบ่มเชื้อให้คงที่ที่อุณหภูมิ 22-25องศาเซลเซียส ความชื้นประมาณ60%
- ในระยะเห็ดเริ่มออกดอก เราจะเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าสีทองในตู้เย็น โดยควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 15-18องศาเซลเซียส ความชื้นประมาณ60-70%
- ในระยะเห็ดเจริญเติบโต เราจะเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าสีทองในตู้เย็น โดยให้แสงวันละประมาณ12ชั่วโมง ถ้าติดช่วงกลางคืนก็สามารถให้แสงด้วยหลอดไฟเรืองแสงได้ อุณหภูมิกลางวันจะควบคุมให้อยู่ที่20-22องศาเซลเซียส ส่วนกลางคืนจะควบคุมให้อยู่ที่15-17องศาเซลเซียส และความชื้นทุกช่วงให้อยู่ที่65%
- เมื่อดอกเห็ดยาวเต็มขวดโหลหรือภาชนะที่เพาะเห็ดถั่งเช่าแล้ว ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ หรืออายุดอกเห็ดประมาณ 2 เดือน ทำการตัดดอกเห็ด นำมาผึ่งลมหรือบริเวณที่มีแสงแดดน้อยๆ เป็นเวลา 10 ชั่วโมง
- นำเข้าตู้อบ ที่อุณหภูมิ 40- 50 องศาเซลเซียส
- ทำการตรวจสอบความชื้น ประมาณ 5 % (สามารถตรวจสอบด้วยการนำเห็ดถั่งเช่าอบแห้งมาหักดูก็ได้ถ้าหักง่ายถือว่าใช้ได้แล้ว)
- นำมาแปรรูปโดยการบด หรือ ใช้ชงเป็นชาพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพ ก็ได้ เป็นการเสร็จกระบวนการ
*เกร็ดความรู้*
- เพาะเห็ด 1 อาทิตย์แล้วต้องกระตุ้นด้วยแสง เพราะแสงมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นดอกและทำให้เกิดสีได้มาก
- เพาะเห็ดไม่เกิน 60 วัน ก็สามารถนำไปขายได้
- หัวเชื้อเหลวจะเร็วกว่าเชื้อวุ้น เพราะจะเดินได้ทั่วขวดมากกว่า เชื้อวุ้นจะเดินแค่จุดเดียว
- ถ้าใช้หนอนไหม ให้ปั่นด้วยน้ำมันฝรั่งก่อน แล้วชั่งมา 2 ขีด
- ชั้นวางเห็ดสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ชุบกัลวาไนซ์ ทนทาน 30 ปี ไม่เป็นสนิม
- เห็ดถั่งเช่า ถ้าขอ อย. 4-5 พลัส จะขอยาก จะถูกจัดให้เป็นยา
- เห็ดถั่งเช่าราคา กิโลกรัมละ 7-8 หมื่นบาท ที่ความยาว 4-5 เซนติเมตร เกรดเอ
- วิธีทำน้ำเห็ดถั่งเช่า ใช้เห็ด 1-2ตัว แช่น้ำร้อนชงเป็นชา ใส่หญ้าหวานเล็กน้อย
- เกาหลี เรียก เห็ดถั่งเช่าหิมะ
- เห็ดถั่งเช่ามีข้อดีคือ มี คอดี้เซ็บติน ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนเลือด ต้านการแพร่เซลล์มะเร็ง, สารไนตริกอ็อกไซด์ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
การแปรรูปเห็ดถั่งเช่า
วิธีการรับประทานเห็ดถั่งเช่านั้นสามารถทำได้หลายวิธี โดยหลังเก็บเกี่ยวจะนำมาตากแห้ง ตั้งแต่โบราณมาใช้ในรูปของการรับประทานสด ต้มรับประทานในลักษณะเป็นชาถั่งเช่า ยาต้ม ยาดองเหล้า หรือยาบดเป็นผง ต่อมามีการพัฒนาวิธีการสกัดให้ได้ตัวยาที่เข้มข้นบรรจุเป็นแคปซูล หรือยาเม็ด อีกทั้งนำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่ม ตลอดจนอาหารเสริมต่างๆ ซึ่งในบ้านเราพบในรูปแบบของซุปไก่สกัดผสมโสมและถั่งเช่า กาแฟผสมถั่งเช่า ซึ่งราคาสูงกว่ากาแฟตามท้องตลาดถึง 30 เท่าต่อซอง การนำมาใช้ประกอบอาหาร เมนูอาหารจีนที่ปรุงจากเห็ดถั่งเช่ามีหลากหลายรายการ อาทิเช่น ซุปพุงปลาตุ๋นถั่งเช่า ซุปไก่ดำตุ๋นถั่งเช่า โจ๊กปลาหิมะกับถั่งเช่า เป็นต้น วิธีทำให้ทำเหมือนเตรียมอาหารเมนูนั้นๆตามปกติ แต่เพิ่มส่วนผสมเห็ดถั่งเช่า โดยจะใส่ปริมาณ 10-30 กรัม โดยยัดเข้าไปในกระเพาะอาหารของสัตว์ หรือใส่ในน้ำต้มซุป ทำอาหารให้สุกด้วยความร้อน รับประทานวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 8-10 วัน พบว่ามีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง เหมาะสำหรับร่างกายอ่อนแอหลังฟื้นไข้ ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรจีนที่ดียิ่งสำหรับปรับการทำงานของร่างกายให้สู่สภาวะปกติ มีธาตุค่อนไปทางอุ่น ผู้ที่มีอาการหยินพร่อง ธาตุไฟสูง และเป็นไข้หวัดไม่ควรรับประทาน
การปรุงเห็ดถั่งเช่ากับเนื้อสัตว์เพื่อรักษาอาการต่างๆ ตามความเชื่อของคนจีน
| ชนิดเนื้อสัตว์ | สำหรับรักษาอาการ |
| เป็ด | ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ร่างกายอ่อนแอ หรือเพิ่งฟื้นไข้ |
| ไก่ | บำรุงกำลังทางเพศ |
| ไก่ดำ | ร่างกายอ่อนแอ การทำงานของหยินและหยาง |
| หมูที่ปราศจากไขมัน (หมูเนื้อแดง) | ร่างกายเหนื่อยล้า ความอ่อนแอของร่างกาย |
| นกกระจอก | ชะลอความชรา |
| นกกระทา | ร่างกายอ่อนแอ ไม่เจริญอาหาร ไตอ่อนแอ วัณโรค |
| เต่านึ่ง | บำรุงกำลังทางเพศ |
| หอยเป๋าฮื้ออบ | โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง วัณโรค ภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ต้อกระจก |
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : คลิ๊กที่นี่
(แหล่งข้อมูลจาก https://medthai.com, http://www.gaifood.com, https://www.mrdcthailand.com, http://www.gaifood.com)