การดูแลปีแป๋หลังการปลูก

การดูแลปีแป๋หลังการปลูก

การดูแลปีแป๋ หลังการปลูก มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่สำคัญ…สำคัญต่อคุณภาพผลผลิต สำคัญต่อผลกำไร และ การดูแลปีแป๋ ที่ดีและสม่ำเสมอ ยังผลให้ต้นปีแป๋แข็งแรง ต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืชได้ดี ทำให้การปลูกปีแป๋โดยปราศจากสารเคมีในการบำรุง หรือกำจัดโรค แมลงศัตรู และวัชพืช เป็นไปได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ทีเดียว

ขั้นตอน การดูแลปีแป๋ หลังการปลูก
การให้น้ำ หลังปลูกต้นกล้า ในระยะ 1 เดือนแรก ต้องให้น้ำทุกวันเพื่อให้รากลงดินได้สะดวกรวดเร็วและหาอาหารได้อย่างสมบูรณ์ หลังจาก 1 เดือนแรก ให้น้ำ 2 หรือ 3 วัน ต่อครั้ง

ระบบน้ำ
ใช้ระบบสปริงเกลอร์แบบหัวฉีดน้ำฝอย

***หากอากาศร้อนจัด ให้ใช้การให้น้ำเข้าช่วยลดอุณหภูมิของอากาศ***
***ในฤดูฝน ต้องดูแลการระบายน้ำบริเวณโคนต้น อย่าให้น้ำท่วมราก***

การให้ปุ๋ย
ให้ปุ๋ยชีวภาพ
จุลินทรีย์หน่อกล้วย และฮอร์โมนไข่ ผสมน้ำฉีดพ่นในอัตราส่วนอย่างละ 10 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 15 วัน หรือเดือนละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องกันจนถึงระยะที่เก็บผลผลิตได้

การบำรุงช่วงออกดอกหรือติดผล
ให้จุลินทรีย์หน่อยกล้วย และฮอร์โมนไข่ตามระยะและปริมาณปกติ
***ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี หรือสารเคมีกำจัดวัชพืช กำจัดโรค และกำจัดแมลงใดๆ เพราะปีแป๋เป็นผลไม้ที่ให้คุณประโยชน์ทางยาควบคู่ไปกับการรับประทานผลสด***

การให้ผลผลิต
อายุต้น 3 ปี เริ่มมีช่อดอก แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมกับการเก็บเกี่ยวผลผลิต คือ เมื่อต้นมีอายุเข้าปีที่ 5 ให้ผลผลิตปีละครั้ง

ฤดูเก็บเกี่ยว เดือนกุมภาพันธ์
ออกดอกช่วงปลายปี และดอกร่วงหล่นในช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาว ให้ผลสีส้มช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูกาลการให้ผลผลิตของปีแป๋ แบ่งเป็น 4 รุ่น เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน พอครบ 3 เดือน เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งและบำรุงต้น ซึ่งจะเริ่มติดดอกอีกครั้งประมาณเดือนสิงหาคม และติดผลอ่อนเต็มที่ ใช้ระยะเวลาประมาณ 90 วัน ช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ ซึ่งสามารถทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาดได้

การห่อผลผลิต
ห่อผลปีแป๋ด้วยถุงคาร์บอน หรือถุงห่อผลไม้ เพื่อให้ผิวเปลือกเปล่งปลั่งสวยงาม ป้องกันแมลง และแสงแดดรบกวน

การเก็บเกี่ยวผลผลิต

  • ให้เก็บเกี่ยวผลปีแป๋เมื่อสุกจากต้น โดยสังเกตสีผลที่เปลี่ยนไป เช่น สีเหลืองเข้ม หรือ สีส้มเข้ม นั่นหมายถึง ผลสุกที่สามารถเก็บเกี่ยวได้
  • ใช้กรรไกรตัดกิ่ง หรือกรรไกรที่คมมากๆ ตัดให้เหลือขั้วติดผลนิดหน่อย
  • ในผลที่ตัดใส่ลงในภาชนะที่สะอาด และวางในที่ร่มมีอากาศถ่ายเทสะดวก รอการขนส่งไปจำหน่าย
  • ระวังอย่าให้ผลปีแป๋ร่วงหล่น เกิดความเสียหาย

การเก็บรักษาผลปีแป๋
นำผลปีแป๋ที่ตัดแล้วมาวางไว้ในที่อากาศถ่ายเท จะเก็บไว้ได้นาน จะทำให้รสชาติหวานหอมยิ่งขึ้น

สูตรจุลินทรีย์หน่อกล้วย
จุลินทรีย์หน่อกล้วยช่วยเร่งการเจริญเติบโต และ ช่วยย่อยสลายเศษใบไม้และวัสดุต่างๆ ให้เป็นปุ๋ยสำหรับพืช

ส่วนผสม

  • หน่อกล้วยที่สมบูรณ์ ไม่เป็นโรค สูงไม่เกิน 1 เมตร (ใช้เหง้า พร้อมรากให้มีดินติดรากมาด้วย) 3 กิโลกรัม
  • กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม (อัตราส่วน : หน่อกล้วย 3 ส่วน ต่อ กากน้ำตาล 1 ส่วน)

วิธีทำ

  • สับหรือบดหน่อกล้วยให้ละเอียด โดยไม่ต้องล้างน้ำ แล้วนำมาคลุกกับกากน้ำตาลให้เข้ากัน หมักในภาชนะที่มีฝาปิด เก็บไว้ในที่ร่ม แต่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
  • คนส่วนผสมที่หมักไว้ให้เข้ากัน ทุกวันๆ ละ 2 ครั้ง (เช้า และ เย็น) จนครบ 7 วัน
  • กรองน้ำหมัก แยกเก็บไว้ได้นานถึง 6 เดือน

วิธีใช้
นำไปใช้ตามอัตราส่วนข้างต้น (การให้ปุ๋ย)
ฮอร์โมนไข่
ช่วยเร่งการเจริญเติบโต
ช่วยกระตุ้นตาดอก ให้ผลดก
ลดการหลุดร่วงของผล
กระตุ้นการแตกยอก
ทำให้ดินร่วนซุย
เพิ่มจุลินทรีย์ในดิน และเสริมสร้างการย่อยอินทรียวัตถุในดิน
ทำให้พืชแข็งแรง ป้องกันเพลี้ย หนอน ไร และเชื้อราต่างๆ ได้ดี

ส่วนผสมและอุปกรณ์

  • ถังพลาสติกที่มีฝาปิด 1 ใบ
  • ไข่ไก่ 10 ฟอง
  • น้ำตาลทรายแดง ครึ่งกิโลกรัม
  • นมเปรี้ยวโยเกิร์ต 700 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  • ตอกไข่ใส่ในภาชนะหรือถังที่เตรียมไว้
  • ใส่น้ำตาลทรายแดงครึ่ง กิโลกรัมลงไปผสมกับไข่ ตามด้วยนมเปรี้ยวที่เตรียมไว้ลงไปผสม แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
  • ปิดฝาถังพลาสติก หมักทิ้งไว้ 1 เดือน จะมีกลิ่นหอม ซึ่งพร้อมที่จะนำมาใช้

วิธีใช้แบบที่ 1

  • ตักหัวเชื้อฮอร์โมนประมาร 2-3 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเปล่า 1 ลิตร ฉีดพ่นยอดในช่วงเวลาที่ปีแป๋ใกล้ออกดอก
  • ฉีดพ่นช่วงเช้า หรือเย็นที่แดดไม่จัดมาก วันเว้นวัน

วิธีใช้แบบที่ 2
ฮอร์โมนไข่ 10 ถึง 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบนใบและใต้ใบให้ชุ่มโชก ช่วงแดดอ่อนๆ ทุก 5 ถึง 7 วัน หรือรดลงดินให้รอบใต้ทรงพุ่มทุก 10 ถึง 15 วัน ในอัตราส่วน 30 ถึง 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

การใช้หัวเชื้อฮอร์โมนไข่ป้องกันศัตรูพืช และป้องกันดอกผลร่วง
ผสมน้ำส้มควันไม้ และผงชูรส อย่างละ 1 ช้อนชาในน้ำเปล่า 1 ลิตร ผสมในน้ำหมักหัวเชื้อฮอร์โมนไข่ 2-3 โต๊ะ ฉีดพ่นที่ช่อดอกและใบ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : คลิ๊กที่นี่
(แหล่งข้อมูล : www.baannoi.com, www.palangkaset.com)

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *