โรงเรือนเพาะชำ สิ่งที่จำเป็นในการดูแลรักษาต้นไม้
เรือนเพาะชำ คือ อะไร?
เรือนเพาะชำ คือ สถานที่ที่ใช้เพื่อดูแลรักษาบรรดาเหล่าต้นกล้าต้นอ่อน กิ่งตอนกิ่งชำ ของพวกไม้ผลและไม้ยืนต้น รวมทั้งไม้พุ่มและไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ ที่จะต้องปลูกเพาะขยายพันธุ์และต้องมีการดูแลรักษาเป็นพิเศษในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่มีการผันแปรของแสงแดด อุณหภูมิ ลม และปริมาณฝนที่ไม่สม่ำเสมอ และนอกจากนี้เรือนเพาะชำยังมีประโยชน์ต่อการปลูกพืชอีกหลายประการ เช่น
- เป็นสถานที่เพาะเมล็ดและปักชำ และเพาะเลี้ยงไม้อ่อน
- เป็นสถานที่สำหรับเลี้ยงพันธุ์ไม้ที่ต้องการความชื้นสูง แต่ต้องการแสงแดดแต่พอควร
- เป็นที่เก็บรักษาพันธุ์ไม้ให้ปลอดภัยจากสัตว์นักทำลาย และเหล่าศัตรูพืช
- เป็นที่รวมพันธุ์ไม้ และพักฟื้นพันธุ์ไม้ที่นำมาใหม่
- เป็นที่เก็บเมล็ดพันธุ์ เครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตร หรือจัดเป็นที่โชว์สินค้า พืช พรรณไม้ ต่างๆ
ลักษณะเรือนเพาะชำที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืชแบบต่างๆ
ในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ มีการผันแปรของแสงแดด อุณหภูมิ ลม และปริมาณฝนที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้การเลี้ยงดูพืชให้มีการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นไปได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชิ้นส่วนที่ใช้ขยายพันธุ์ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาส่วนต่างๆ ขึ้นมาเป็นต้นใหม่ หรือต้นใหม่ที่ยังไม่แข็งแรงสมบูรณ์ดี จำเป็นต้องได้รับการดูแลภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้นเรือนเพาะชำจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการขยายพันธุ์พืชเป็นอย่างมาก
โรงเรือนเพาะชำนั้นมีหลายแบบทั้งแบบที่สามารถควบคุมปัจจัยดังกล่าวได้ทุกอย่าง เช่น การปรับอุณหภูมิภายในโรงเรือน มีหลอดไฟให้แสงสว่างและควบคุมความชื้นสัมพัทธ์อากาศได้ สำหรับการเพาะพันธุ์ต้นที่ต้องการสภาพแวดล้อมเฉพาะอย่าง ส่วนเรือนเพาะชำอีกแบบหนึ่งใช้สำหรับเลี้ยงดูต้นที่มีอายุน้อย และยังไม่แข็งแรงดีให้สามารถเจริญเติบโตได้ต่อไป มีการปรับสภาพแวดล้อมได้บ้าง จึงอาจมีเพียงแค่การกรองแสงหรือพรางแสงให้ต้นกล้าเพื่อรอไว้ย้ายปลูกในแปลงกลางแจ้งต่อไป
ลักษณะโรงเรือนเพาะชำแบบ Hotbeds
เป็นโครงสร้างขนาดเล็กและเตี้ย สามารถใช้งานได้คล้ายโรงกระจกที่ไม่ต้องการลงทุนมาก เหมาะสำหรับการเพาะเมล็ดและชำกิ่งในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น มีโครงสร้างที่มีฝาลาดเอียงแต่ปิดได้สนิท มีท่อนำความร้อนวางผ่านใต้ชั้นวัสดุชำที่อยู่ภายในโครงสร้างนี้ ใช้สำหรับงานขยายพันธุ์จำนวนไม่มากนัก
ลักษณะโรงเรือนเพาะชำแบบ Coldframe
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Sunframe เป็นโครงสร้างเช่น เดียวกับ Hotbeds ที่ไม่มีท่อนำความร้อนข้างใต้วัสดุชำ เนื่องจากเป็นโครงสร้างที่อยู่กลางแจ้ง และมีฝาปิดได้ สนิทจึงได้รับความร้อนจากแสงแดด ทำให้อุณหภูมิ ภายในโครงสร้างไม่ต่ำมากนักในฤดูหนาวและมีความ ชื้นสูงใช้สำหรับเลี้ยงต้นกล้าขนาดเล็กหรือกิ่งชำที่ ออกรากแล้วให้สามารถปรับตัวได้ก่อนย้ายปลูกกลาง แจ้งต่อไป
ลักษณะโรงเรือนเพาะชำแบบไม้ระแนง (Lath House)
เป็นโครงสร้างที่มีการพรางแสงหลังคา สำหรับพืชที่ปลูกในกระถางหรือต้นที่ย้ายปลูกใหม่ที่ต้องการร่มเงา หรือพืชที่ ต้องการการเอาใจใส่มาก นิยมใช้ในพื้นที่ที่มีอากาศไม่หนาวจัด มักมีโครงสร้างเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความสูงอย่างน้อยประมาณ 3 เมตร หลังคานิยมใช้ไม้ระแนงขนาด 1×1 นิ้ว วางสลับอันเว้นอันหรือตามความต้องการในการพรางแสง โดยกำหนดทิศทางของโรงเรือนให้ขวางตะวันหรืออยู่ในแนวเหนือใต้ เพื่อให้แสงผ่านหลังคาได้อย่างสม่ำเสมอ โดยอาจใช้วัสดุอื่นๆ ทำหลังคาก็ได้ เช่น สแลน หรือ ตาข่ายกรองแสง ซึ่งเป็นวัสดุมีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่ายและราคาไม่แพง เป็นที่นิยมใช้กันอย่างมากในปัจจุบัน
ลักษณะโรงเรือนเพาะชำแบบกระจก (Glass House)
เป็นโรงเรือนที่มีโครงสร้างทำด้วยกระจก เหมาะสำหรับสร้างในเขตที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น ที่ต้องการปรับอุณหภูมิภายในโรงเรือนให้ต้นพืชเติบโตผ่านอากาศหนาวเย็นได้ นอกจากนั้นยังสามารถปรับสภาพต่างๆ ให้เหมาะสมได้ เช่น การระบายอากาศและความชื้น การให้ปุ๋ยไปพร้อมกับน้ำ การเพิ่มจำนวนชั่วโมงแสงแดดต่อวัน การปรับความเข้มแสงของหลังคา การให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มและอื่นๆ ซึ่งโครงสร้างของโรงเรือนนั้นจะต้องมีความแข็งแรงสำหรับรองรับน้ำหนักของกระจกที่ใช้ทำหลังคาได้ ถึงแม้ว่าโรงเรือนแบบกระจกจะใช้งานได้ดี แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงทีเดียว
ลักษณะโรงเรือนเพาะชำแบบพลาสติก (Plastic House)
เป็นโรงเรือนที่ใช้วัสดุพลาสติก polyethylene ในการทำหลังคาหรือล้อมรอบโรงเรือน สำหรับป้องกันฝนและช่วยเพิ่มอุณหภูมิภายในได้บ้าง มีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในการผลิตสินค้าทางการเกษตรมากกว่าโรงเรือนแบบกระจกถึง 3 เท่า ซึ่งโรงเรือนแบบนี้ใช้จะโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา แล้วคลุมด้วยพลาสติกอีกที จึงเป็นโรงเรือนที่ทำได้ง่ายและมีค่าใช้จ่ายน้อย สำหรับในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงนั้น จะต้องมีการระบายอากาศภายในโรงเรือน จึงจะช่วยลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนให้ต่ำลงได้ วัสดุที่ใช้ทำหลังคาสามารถใช้วัสดุต่างๆ ได้ เช่น โพลีคาร์บอเนต หรือ ไฟเบอร์กลาส หรือ พลาสติกกรองแสงอื่นๆ ก็ได้
อ่าน: การสร้างเรือนเพาะชำ ดูแลต้นอ่อน ไม้ดอกต่างๆ
ซึ่งเมื่อเรามีโรงเรือนเพาะชำแล้ว การจัดการดูแลรักษาต้นกล้า ต้นอ่อน กิ่งตอน กิ่งชำ ของไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ ก็จะง่ายดายขึ้น และดูมีระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งโรงเรือนเพาะชำยังช่วยลดปัญหาจากฝนฟ้าอากาศ และแสงแดดได้ ส่งผลให้พืชพรรณไม้ที่ปลูกนั้นมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ล้มตายไปก่อน และยังช่วยป้องกันภัยจากเหล่าแมลงศัตรูพืชและสัตว์นักทำลายได้เป็นอย่างดี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : คลิ๊กที่นี่