โรคและแมลงศัตรูอะโวคาโด้

โรคและแมลงศัตรูอะโวคาโด้

โรคและแมลงศัตรูอะโวคาโด้ สร้างความเสียหายให้ได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่ของผู้ปลูกด้วย อะโวคาโด้ต้องการการดูแลมากที่สุดคือ ช่วง 1 ปีแรก หลังจากนั้น ให้น้ำ ให้ปุ๋ยตามกำหนด และเพียงแค่หมั่นสังเกตว่ามีความผิดปกติกับอะโวคาโด้บ้างหรือไม่ แต่ถ้าผู้ปลูกปล่อยปละละเลย ก็เป็นจุดอ่อนให้ โรคและแมลงศัตรูอะโวคาโด้ เข้าทำลายได้

อาการและวิธีป้องกันแก้ไข โรคและแมลงศัตรูอะโวคาโด้ มีดังนี้
โรคอะโวคาโด้

โรครากเน่า
เป็นโรคที่สำคัญที่สุดของอะโวคาโด้ โดยเฉพาะช่วงอายุประมาณ 10 ปีที่อะโวคาโด้กำลังให้ผลผลิตอย่างเต็มที่ โรคนี้เกิดจากเชื้อราในดิน ถ้าการระบายน้ำในดินไม่ดี หรือเกิดน้ำท่วมขัง เชื้อโรคนี้ก็จะเริ่มระบาด หรือถ้ารากมีบาดแผลเชื้อโรคนี้ก็จะเข้าทำลายทางบาดแผล อาการที่สังเกตได้ คือ ใบจะเล็กลง เหี่ยว และร่วง, กิ่งแห้งจากยอดมาหาราก, ต้นมีสีดำ เน่า แห้ง และ ผล จะมีขนาดเล็กลง

การป้องกันและกำจัด

  • รดน้ำในปริมาณที่เหมาะสม แค่พอชุ่มแต่ไม่แฉะ
  • ควบคุมการให้น้ำเมื่อเกิดโรค อย่าให้น้ำและหน้าดินจากต้นที่เป็นโรคไหลไปหาต้นข้างเคียง
  • ใช้ต้นตอที่ปลอดโรค หรือมีความต้านทานโรครากเน่าได้ดี
  • เมื่อเกิดอาการให้แก้ไขในทันที โดยใช้สารสกัดสมุนไพร (มีจำหน่ายแบบสำเร็จรูป) ผสมน้ำตามอัตราส่วนที่กำหนดข้างขวด กำจัดด้วยการฉีดพ่นให้ทั่วต้น หรือใช้จุลินทรีย์สับปะรดกำจัด
  • ควบคุมการเกิดโรครากเน่า ด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์มาเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ควรฉีดพ่นทุก 10 ถึง 15 วัน ในอัตราส่วน เชื้อราไตรโคเดอร์มา 50 ถึง 100 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร ราดดินบริเวณโคนต้น และฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้น
  • หมั่นกำจัดวัชพืชโดยเฉพาะบริเวณโคนต้น

สูตรจุลินทรีย์สับปะรด

  • ผลสับปะรดที่แก่จัด (ตัดจากต้นใหม่ๆ) 5 กิโลกรัม
  • น้ำตาลทายแดง 1 กิโลกรัม
  • ยิสต์ทำขนมปัง 100 กรัม

วิธีทำ

  • ล้างสับปะรดให้สะอาด ไม่ต้องปอกเปลือก สับให้ละเอียด
  • ผสมส่วนผสมทั้งหมด คลุกให้เข้ากัน ใส่ลงในภาชนะที่ทึบแสงและสะอาด ปิดฝาภาชนะด้วยสำลี หมักทิ้งไว้ 7 วัน ในห้องที่อุณหภูมิปกติ ไม่โดนแดด ถ้าอากาศเย็นหรืออุณหภูมิต่ำให้หมัก 10 วัน จะได้ หัวเชื้อจุลินทรีย์เข้มข้น

วิธีใช้
หัวเชื้อจุลินทรีย์ 20 ถึง 30 ซีซี. ผสมน้ำ 20 ลิตร ราดบริเวณรอบๆ โคนต้นทุก 7-10 วัน ช่วยกำจัดเชื้อราโรครากเน่าโคนเน่า และช่วยปรับโครงสร้างดินให้โปร่งร่วนซุย โรคจุดดำหรือโรคแอนแทรคโนส เป็นโรคที่สำคัญรองลงมาจากโรครากเน่า และเกิดจากเชื้อราเช่นกัน อาการของโรค จะมีจุดสีน้ำตาล อาจพบผลร่วงหล่นถ้าเชื้อเข้าทำลายทางเนื้อผล

การป้องกันและกำจัด
ใช้วิธีเดียวกับโรครากเน่า โรคแคงเกอร์ มีสาเหตุมาจากเชื้อรา อาการของโรค คือ มีจุดสีน้ำตาลที่ผิวของผล กิ่ง และปลายใบ สำหรับอาการที่ผลอาจพบในขั้นตอนการบ่ม จุดอาจลุกลามไปทั่วผิวผลโดยเฉพาะก้นผล ทำให้ผลเน่า ผิวเปลือกบุ๋ม

การป้องกันและกำจัด
ใช้วิธีเดียวกับโรครากเน่าและโรคแอนแทรคโนส โรคใบจุดจากเชื้อสาหร่าย ระบาดมากในฤดูฝน อาการเริ่มต้นจากเกิดจุดสีน้ำตาลแดง กลม นูน กระจายอยู่บนผิวใบ ทำให้ใบปรุงอาหารไม่ได้เต็มที่

การป้องกันกำจัด
ใช้คอปเปอร์ซัลเฟต 3 ถึง 5 ช้อนแกง ผสมน้ำ 5 ลิตร ฉีดพ่น

แมลงศัตรูอะโวคาโด้
แมลงค่อมทอง หรือ ด้วงงวงกัดกินใบ ตัวอ่อนหรือหนอน จะกัดกินราก ตัวเต็มวัย จะกัดกินใบอะโวคาโด้ ใบแหว่งหรือมีรูพรุน และสามารถกัดกินใบจนเหลือแต่กิ่ง บางครั้งเข้าทำลายช่อดอกด้วย

การป้องกันและกำจัด
ใช้เชื้อราบิวเวอร์เรียฉีดพ่นในช่วงเย็นจึงจะมีประสิทธิภาพดีในการกำจัด ระหว่างที่ฉีดให้กวนน้ำเป็นระยะ และควรปรับหัวฉีดให้พ่นฝอยละเอียดเพื่อฉีดพ่นได้ในวงกว้าง และควรฉีดเหนือลม ช่วงที่อากาศแห้งแล้ง เพิ่มความชื้นโดยการให้น้ำ หรือพ่นละอองน้ำก่อนและหลังการใช้เชื้อราฉีดพ่น และก่อนนำเชื้อราไปใช้ให้ นำเชื้อราตามอัตราส่วนที่ต้องการไปแช่น้ำอย่างน้อย 4 ชั่วโมงแต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง และเพิ่มอาหารของเชื้อด้วยนมข้น /น้ำหวาน / กากน้ำตาล เพื่อให้เชื้อมีปริมาณและประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น สามารถทำให้แมลงตายได้ภายใน 1 ถึง 2 วัน

หนอนผีเสื้อ
ระบาดมากในช่วง เดือนกรกฎาคม ถึง เดือนธันวาคม ต้นที่ถูกกัดกินใบมากจะไม่ออกดอก เพราะเสียอาหารที่สะสมไป
การป้องกันและกำจัด

  • ใช้ผลหรือใบสะเดาแก่ 1 กิโลกรัม บดให้ละเอียด ผสมน้ำเปล่า 20 ลิตร ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง จะได้หัวเชื้อ กรองหัวเชื้อ (ใช้แต่น้ำ) ใช้ฉีดพ่นกำจัดหนอน, เพลี้ย และด้วง ในอัตราส่วน 3 ถึง 6 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่า 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 3 หรือ 5 วัน
  • จับดักแด้และตัวแก่ไปเผาทำลาย

เพลี้ยไฟ
ระบาดในช่วงฤดูร้อน เป็นระยะแทงช่อดอกหรือดอกบาน เข้าทำลายโดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากช่อดอก ทำให้ช่อดอกสั้นลง หรือเข้าทำลายในระยะดอกบานจะทำให้ดอกแห้งร่วง บางครั้งเข้าทำลายขณะติดผลอ่อน ทำให้ผลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลมีตำหนิ

การป้องกันและกำจัด
ใช้หัวเชื้อผลสะเดาตามวิธีข้างต้นกำจัด
เพลี้ยแป้ง
เพลี้ยแป้งดูดกินน้ำเลี้ยงที่กิ่งและใบ ทำให้ไม่เจริญเติบโต หรือดูคล้ายมีราดำจับตามกิ่งและใบ แต่นั่นคือ มูลของเพลี้ยที่ถ่ายออกมาทำให้ราดำเจริญเติบโต
การป้องกันกำจัดและกำจัด
ถ้าเป็นน้อยให้ตัดกิ่งเผาไฟ ถ้าเป็นมากให้ใช้

  • น้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซนต์ 1ลิตร
  • กากน้ำตาล 1 ลิตร
  • เหล้าขาว 2 ขวด
  • สาร EM 1 ลิตร
  • น้ำสะอาด 10 ลิตร
    ผสมให้เข้า หมักทิ้งไว้ในถังปิดฝา 15 วัน เปิดฝาคนส่วนผสมวันละ 1 ครั้ง เมื่อครบกำหนด นำมาใช้ฉีดพ่นในอัตราส่วน น้ำหมัก 5 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเปล่า 10 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบให้ทั่วทรงพุ่มและลำต้น ทุกๆ 3 วัน ช่วยป้องกัน และกำจัดเพลี้ยแป้งได้

เพลี้ยหอย
มีหลายชนิดทำลายยอดอ่อนและใบของอะโวคาโด้ อาการที่พบคือ ด้านล่างของใบจะถูกดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ด้านบนของใบมีสีซีดเหลือง ถ้าเป็นที่กิ่งอ่อนจะทำให้กิ่งเหี่ยวแห้ง

การป้องกันและกำจัด
ตำกระเทียม 1 กิโลกรัมให้ละเอียด ผสมน้ำมันก๊าดหรือแอลกอฮอล์ 1 ลิตร หมักไว้ในถัง 24 ชั่วโมง กรองเอาเฉพาะน้ำหัวเชื้อไปใช้ฉีดพ่น โดยผสมกับน้ำเปล่า 60 ลิตร คนให้เข้ากัน ฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้น ทุกๆ 3 หรือ 5 วัน

หนอนเจาะกิ่ง
เป็นหนอนผีเสื้อกลางคืน เข้าไปในส่วนของลำต้นและกิ่ง ทำโพรงอาศัยและกัดกินทำให้ใบของกิ่งแห้งเหี่ยว
การป้องกันและกำจัด

  • ตัดกิ่งที่หนอนทำลายไปเผาไฟ
  • ใช้ตะขอลวด หรือคีมปากแหลมฟ ดึงเอาตัวหนอนจากโพรงที่เจาะไปเผาไฟ
  • ใช้แมลงศัตรูธรรมชาติพวกแตนเบียนควบคุม หรือใช้สมุนไพรธรรมชาติกำจัด

ชอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : คลิ๊กที่นี่

(แหล่งข้อมูล : www.kasetorganic.com, www.tipza.com, 77wa.blogspot.com)

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *